Create Website

How to สร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress ใน 5 นาที!

ในยุคสมัยที่การทำแค่งานประจำยังคงไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายต่างๆในชีวิตประจำวัน หลายคนจึงต้องมองหาเงินเสริมอื่นเพื่อเป็นช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่มเติม

ใช่ว่างานเสริมจะเป็นงานอะไรก็ได้ เพราะการที่จะเลือกงานสักอย่างมาทำเป็นงานเสริมนั้น ต้องขึ้นอยู่กับความสนใจ ความรู้ความสามารถในประเภทงานนั้นๆ เช่น

บางคนขายของเก่งก็สามารถทำร้านค้าออนไลน์เพื่อขายสินค้า

บางคนมีความรู้และความสามารถในการสอนก็สามารถเปิดแฟนเพจหรือเว็บไซต์เพื่อทำการสอนเนื้อหาความรู้ให้แก่บุคคลที่สนใจ

แต่ถ้ามีคนถามผมว่า “อยากทำงานเสริม แต่ไม่รู้จะทำงานอะไร

ผมมักจะตอบไปว่า “ก็ทำเว็บไซต์สิ

fiverr_5_dollars_jobs
เว็บไซต์ Fiverr.com เป็นเว็บไซต์จ้างงานรูปแบบใหม่ ที่ให้คุณสามารถหาบริการต่างๆ เริ่มต้นที่ราคา $5 ปัจจุบันมีผู้ซื้อและผู้ให้บริการจำนวนมาก

เพราะตัวผมเองเริ่มทำเว็บไซต์มาได้สักระยะหนึ่ง ซึ่งสามารถสร้างรายได้จากการทำเว็บไซต์พอสมควร

ซึ่งผมต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า

  • ผมไม่ได้เก่งขั้นเทพ แต่มีความรู้เกี่ยวกับการทำเว็บไซต์เบื้องต้น
  • การ Coding, Design ค่อนข้างติดลบ 5555
  • รายได้จากการทำเว็บไซต์ของผมไม่ได้สูงมาก แต่มีไว้เพียงพอกับค่าเซิฟเวอร์เท่านั้น

หากมีข้อความหรือเนื้อหาในบางหัวข้อที่มีความผิดพลาดของข้อมูล รบกวนกรุณาส่งข้อความมาบอกผมด้วยนะครับ จะทำการแก้ไขให้ถูกต้อง ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ครับ

website_coding_wordpress
การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะเทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถสร้างเว็บไซต์ให้คุณได้ภายในไม่กี่นาที

อันที่จริงแล้ว การทำเว็บไซต์ไม่ใช่เรื่องยาก (ถ้าฝึกฝนบ่อย) แต่ถ้าบางคนไม่เคยมีประสบการ์ณทางด้านการทำเว็บไซต์มาก่อน ก็อาจจะเกิดความสับสนขึ้นได้

ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ตัวผมเองก็เคยเป็นแบบนั้นมาก่อนสมัยเริ่มทำเว็บไซต์ใหม่ๆ แต่ไม่ต้องกังวลนะครับ เพราะบทความนี้ผมจะพยายามอธิบายให้เข้าใจง่าย เพื่อที่คุณจะสามารถสร้างเว็บไซต์ได้จริง

ผมจะเริ่มจากอธิบายภาพรวมของเว็บไซต์ก่อนนะครับ เพื่อให้ทุกคนสามารถนึกภาพตามไปได้

เว็บไซต์เปรียบเสมือนชิ้นงาน presentation ที่เราทำใน Microsoft Power Point

websites
เว็บไซต์มีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของเว็บไซต์นั้นๆว่าสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร
  • เมื่อเปิดสไลด์มาผู้ชมก็จะเห็นหน้าแรกของสไลด์ ซึ่งหน้าแรกของเว็บไซต์จะเรียกว่า Homepage
  • Homepage เป็นหน้าหลักที่เมื่อผู้ชมเข้ามาก็จะพบหน้านี้เป็นหน้าแรกสุดเสมอ
  • โดยข้อมูลจะถูกแบ่งเป็นแต่ละหน้า เฉกเช่นเดียวกันกับสไลด์แต่ละแผ่น ซึ่งหน้าแต่ละหน้าของเว็บไซต์จะเรียกว่า Web Page
  • เว็บไซต์ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้แสดงผลเหมือนกับสไลด์ที่ต้องเริ่มจาก 1 2 3 ตามลำดับ แต่เว็บไซต์สามารถเชื่อมโยงกันได้ด้วย Link (HyperLink)
  • Link จะมีหน้าที่บอกว่าเนื้อหา/หัวข้อในส่วนนั้นเชื่อมโยงกับตำแหน่งใด
  • ทุกเว็บไซต์จะต้องมี Link ไว้สำหรับเชื่อมโยงกันของข้อมูล ทั้งภายใน (Internal Link) และภายนอกเว็บไซต์ (External Link)
  • ยกเว้นเว็บไซต์บางประเภทที่มีเพียงหน้าเดียว และใช้ # (Anchor) ในการระบุตำแหน่งของข้อมูล
links
Link สามารถเชื่อมโยงส่วนต่างๆของเว็บไซต์ให้มีความสะดวก รวดเร็ว ในการค้นหาหรือไปยังข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกัน
  • สไลด์แต่ละแผ่นก็จะถูกตกแต่งให้สวยงาม ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของตัวผู้สร้าง เช่นเดียวกันกับเว็บไซต์ที่จะมีหน้าตาแตกต่างกันไป
  • การเข้าถึงเว็บไซต์ก็สามารถทำได้โดยการเรียกผ่านทาง protocol://subdomain.domainname.tlds ตัวอย่างเช่น https://www.google.com เป็นต้น
  • แต่โดยทั่วไปใช้เพียงแค่ domain name และ tld ที่ถูกต้องก็จะสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้ทันที
  • เนื่องจาก Browser (Google Chrome, Mozilla Firefox ฯลฯ) สมัยใหม่สามารถระบุ Protocol ให้เองอัตโนมัติ เช่น พิมพ์ google.com แล้วกด enter ก็จะเข้าสู่ https://google.com ให้โดยอัตโนมัติ
browsers
Web Browser ที่เป็นที่นิยมประกอบไปด้วย Mozilla Firefox, Google Chrome, Safari และ Internet Explorer ซึ่งเป็นโปรแกรมเอาไว้สำหรับเข้าสู่เว็บไซต์
  • การจะเป็นเจ้าของโดเมนได้นั้นต้องจดทะเบียนกับผู้ให้บริการจดโดเมน
  • เงื่อนไขในการจดโดเมนคือ ต้องเป็นชื่อโดเมนที่ไม่ซ้ำกับชื่อโดเมนอื่น และเมื่อจดโดเมนแล้วจะไม่สามารถแก้ไขชื่อโดเมนได้ นอกเสียจากว่าจะจดโดเมนใหม่เท่านั้น
  • เมื่อได้โดเมนมาแล้ว ก็ต้องมองหา Web Hosting สำหรับเก็บข้อมูลเว็บไซต์ทั้งหมด เปรียบเสมือน Hard Disk Drive ที่สามารถบันทึกข้อมูลและดึงข้อมูลขึ้นมาแสดงได้ตลอดเวลา
hard-drive
Web Server สำหรับเก็บข้อมูลทั้งหมดของเว็บไซต์ หากมีความผิดพลาดหรือตัวเซิฟเวอร์เกิดขัดข้อง ก็จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้เข้าชมเว็บไซต์
  • ข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บอยู่ในเซิฟเวอร์ของทาง hosting เรียกว่า Web Server
  • Web Server นอกจากจะเก็บข้อมูลเว็บไซต์แล้ว ก็ยังมีหน้าที่ในการให้บริการแสดงผลหน้าเว็บไซต์ให้แก่ผู้เข้าชมทั่วโลกตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
  • ทั้งนี้ความเร็วและความเสถียรเป็นสิ่งสำคัญ หาก Web Server มีปัญหาขัดข้องบ่อย ล่มบ่อย ก็จะส่งผลเสียหายต่อเว็บไซต์โดยตรง ผู้เข้าชมก็จะเกิดปัญหาเข้าเว็บช้า เข้าเว็บไม่ได้
  • การที่จะช่วยลดภาระการทำงานของ Web Server สามารถทำได้ง่ายโดยการใช้บริการ Cloudflare
  • Cloudflare ช่วยในการช่วยบริหารทรัพยากรและจัดการกับผู้ที่ไม่หวังดีต่อเว็บไซต์ของคุณได้ อีกทั้ง Cloudflare ยังช่วยเพิ่มความเร็วในการเข้าชมข้อมูลบนเว็บไซต์อีกด้วย
  • เว็บไซต์ที่ไม่มีระบบจัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์ ก็จะเปรียบเสมือนการที่หนังสือเล่มหนึ่งที่ เนื้อหา/ปก/คำนำ/สารบัญ ปะปนกันไปหมดไม่เป็นระเบียบ
  • คงเป็นเรื่องยากหากที่ต้องมานั่งจัดหน้าตาของเว็บไซต์ทุกครั้งที่มีการสร้างเนื้อหา/หน้าใหม่ๆ จึงมีระบบ CMS เกิดขึ้นมาช่วยแบ่งเบาภาระในส่วนนี้
  • CMS ส่วนใหญ่ก็มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละบุคคล CMS ที่ผมจะพูดถึงเป็นตัวหลักนั่นก็คือ WordPress
  • WordPress นอกจากจะช่วยจัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์แล้ว ยังช่วยในการจัดระเบียบเว็บไซต์ให้ดูเป็นสัดส่วน น่าอ่าน และดูสวยงามเป็นระเบียบ ช่วยให้ผู้เข้าชมได้รับประสบการณ์ที่ดีในการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ

ที่ผมได้กล่าวไปก็เป็นเกริ่นนำของส่วนประกอบของเว็บไซต์อย่างคร่าวๆ ถ้าหากคุณผู้อ่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติมสามารถส่งข้อความมาถามกันได้ตาม Social Profiles ที่ผมได้ระบุไว้ครับ

what_is_website
โลกอินเตอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทกับทุกชีวิต การยอมรับและปรับตัวก้าวให้ทันกับเทคโนโลยีจึงเป็นเรื่องสำคัญ หากคุณเข้าถึง เข้าใจ และนำเทคโนโลยีไปปรับใช้ ย่อมส่งผลดีให้กับตัวคุณอย่างเห็นได้ชัด

เนื้อหาในบทความจะประกอบไปด้วย (สามารถกดที่หัวข้อที่คุณต้องการได้เลยครับ)

ถ้าจะให้ผมมาพูดถึงประวัติศาสตร์ของเว็บไซต์ก็คงจะไม่ใช่เรื่อง เพราะผมเองไม่ได้มีความรู้มากขนาดนั้น..

แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณอยากมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง สิ่งแรกที่คุณต้องนึกถึงนั่นก็คือ ชื่อโดเมน (Domain Name)

การเลือกชื่อโดเมนเป็นสิ่งสำคัญในระยะยาว เพราะหากชื่อโดเมนดี ก็สามารถนำพาให้คุณเป็นที่รู้จักหรืออาจจะกลายเป็นคนดังได้ง่ายๆ

โดยข้อสำคัญของโดเมนก็คือ จะต้องไม่ซ้ำกับบุคคลอื่นในโลก และเมื่อจดไปแล้วจะไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องจดโดเมนใหม่เท่านั้น

การจดโดเมน

tlds_top_level_domain
ตัวอย่างของ TLDs ที่เป็นที่นิยมใช้กัน โดยโดเมน .com เป็นที่นิยมใช้มากที่สุดในโลก

สำหรับการจดโดเมนนั้น สิ่งที่คุณต้องมีและขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ

  • บัญชี Paypal – ผมแนะนำ Paypal เพราะว่าสามารถใช้กับบริการได้เกือบทุกอย่างในโลกอินเตอร์เน็ต
  • เงิน – ใช้ในการใช้จ่ายหรือสมัครบริการต่างๆที่จะกล่าวถึงต่อไป

ถ้าคุณมีทั้งสองสิ่งที่ผมบอกแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการที่เราจะหาผู้ให้บริการจดโดเมน

ซึ่งผมไม่เคยใช้ผู้ให้บริการในไทยนะครับ ส่วนใหญ่ที่เคยใช้มาจะมีแต่ Godaddy.com และ Namecheap.com

แต่ถ้าจะให้แนะนำผมขอแนะนำให้จดโดเมนกับ Namecheap.com คุณสามารถดูวิธีการจดโดเมนตามภาพเลยครับ

register_new_domain_namecheap
กรอกโดเมนที่ต้องการ ซึ่งในภาพผมลองใช้โดเมน 696969…. เยอะมาก 555 เมื่อได้โดเมนที่ต้องการแล้ว ก็กดที่รูปแว่นขยายสีส้มด้านขวา เพื่อดำเนินการต่อ

 

namecheap_purchase_new_domain
ภายในหน้านี้จะบอกว่า โดเมนดังกล่าวสามารถจดได้หรือไม่ ในรูปแสดงเครื่องหมายถูก และบอกว่า This domain is available! ก็แปลว่าสามารถจดชื่อนี้ได้ครับ ซึ่งถ้าคุณสนใจโดเมนที่มี TLDs (Top-Level domain) อื่นๆก็สามารถเพิ่มลงตะกร้าได้เลย เสร็จแล้วก็อย่าลืมกดที่รูปรถเข็นปุ่มสีเทา

 

add_to_cart_namecheap
จากนั้นสังเกตทางด้านขวามือครับ ตรง Your Cart จะพบกับโดเมนที่เราได้ทำการเพิ่มเข้าไป โดยจะมีรายละเอียดของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ในที่นี้คือ $6.06 ครับ ตรวจสอบความถูกต้องให้เรียบร้อยแล้วกดที่ View Cart

 

shopping_cart_namecheap
ในหน้านี้จะแสดงรายละเอียดให้เห็นว่าเงินที่เราต้องจ่ายนั้นมีค่าอะไรบ้าง ที่เจ๋งมากนั่นก็คือ Free WhoisGuard 1 ปีครับ ราคารวม $6.06 คือค่าใช้จ่ายต่อปีนะครับ ไม่ใช่ต่อเดือน ฉะนั้นซื้อ 1 ครั้งใช้ได้อย่างต่ำก็ 1 ปีครับ

 

payment_method_namecheap
ในหน้านี้ก็ไม่มีอะไรมากมายครับ Payment Method ให้เลือกเป็น Paypal ตามที่ผมได้บอกให้คุณเปิดบัญชีไว้ จากนั้นก็ Continue ต่อได้เลย

 

Receipt_details_renewal_setting_namecheap
ต่อจากด้านบน ในส่วนนี้คุณสามารถเลือกที่อยู่ ซึ่งที่อยู่ดังกล่าวอาจจะไปปรากฏอยู่ใน Whois History นะครับ (ในกรณีที่คุณไม่ใช้ WhoisGuard)
  • WhoisGuard ทำหน้าที่ปกปิดข้อมูลของเจ้าของโดเมน
  • ถ้าคุณอยากจดโดเมนสำหรับเว็บไซต์ 18+ แต่คุณกรอกชื่อจริงที่อยู่จริงเข้าไป สักวันคงมีคนไปเคาะประตูหน้าบ้านแน่ๆ
  • ดังนั้นทุกครั้งที่คุณจะจดโดเมนกรุณาให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวด้วยนะครับ

เมื่อคุณชำระค่าจดโดเมนผ่านทาง Paypal เป็นที่เรียบร้อย รอไม่ถึงนาทีโดเมนดังกล่าวก็จะเข้าไปอยู่ในบัญชี Namecheap ของคุณ ก็สามารถดำเนินการต่อไปได้เลยครับ

การสมัคร Web Hosting

หลังจากที่ได้จดโดเมนใหม่มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดมาก็คือขั้นตอนการสมัคร Web Hosting

ปัญหาหลักของการทำเว็บไซต์ก็น่าจะเป็นการหา Web Hosting ที่ดี ดีในที่นี้ก็คือ ราคาไม่แพง ประสิทธิภาพดี และบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ

ขอเล่าย้อนไปถึงสมัยที่ผมทำเว็บไซต์ใหม่ๆ ตอนนั้นผมยังไม่มีความรู้เรื่องการทำเว็บสักเท่าไร ก็เช่า Hosting ราคาปานกลางๆ ไม่เน้น support

สุดท้ายเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เว็บล่ม ผลก็คือไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ได้แต่ปล่อยให้เว็บไซต์ของตัวเองเข้าไม่ได้เป็นระยะเวลาหลายวัน จนสุดท้ายผมจึงย้าย hosting ไปยังที่ใหม่

web_server
Web Server เป็นทรัพยากรหลักของผู้ให้บริการ Web Hosting ดังนั้นต้องมีการควบคุมดูแลเป็นอย่างดี เพื่อให้เซิฟเวอร์ุทกตัวทำงานได้ทุกสภาวะ ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ปัจจุบัน เว็บไซต์ของผมทั้งหมดก็ย้ายมาอยู่กับผู้ให้บริการเจ้าหนึ่งซึ่งไม่ได้เป็นที่โด่งดังมากเท่าไร แต่ในเรื่องคุณภาพและการให้บริการ ถือว่าตอบโจทย์กับตัวผมมาก

การสมัครเปิดบัญชี Web Hosting ก็ไม่ใช่เรื่องยากครับ ขั้นตอนเหมือนกันกับตอนจดโดเมน โดยใช้แค่ Email และบัญชี Paypal ก็เพียงพอ

โดยผู้ให้บริการที่ผมจะพูดถึงนั้นก็คือ Excelnode ซึ่งถ้าคุณสนใจสมัครใช้บริการสามารถ กดได้ที่นี่ครับ ซึ่งเมื่อคุณสมัครบัญชีแล้ว สามารถดำเนินการต่อได้ทันที

hosting_full_plan
ตัวอย่าง hosting plan ของทาง Excelnode ครับ มีให้เลือกหลากหลายตามความต้องการ แต่ถ้าสำหรับมือใหม่แล้ว แนะนำใช้แพลนที่ถูกที่สุดก่อนครับ ในภาพก็คือ $2.99 จากนั้นกดปุ่ม Order ได้เลยครับ

 

web_hosting_product_config
หน้าสำหรับ config ข้อมูลก่อนการตัดสินใจเช่า Web Hosting
  • คุณสามารถ config ค่าต่างๆเพิ่มเติมได้ภายในหน้านี้ โดยมีรายละเอียดสำคัญที่ต้องใช้คือ Domain ให้คุณกรอกชื่อโดเมนที่คุณเพิ่งทำการจดลงในช่องนี้
  • คุณสามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายเป็นรายเดือน รายหกเดือน หรือรายปี ในช่อง Choose billing cycle
  • ถ้าคุณต้องการ Addons เสริมก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งจะมี Dedicate IP คือ IP ที่ไม่ซ้ำกันกับคนอื่นภายใน hosting และ SSL Certificate เอาไว้สำหรับเว็บไซต์ที่รองรับ https เป็นต้น

 

Domain_web_hosting_config
ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ Domain นะครับ อย่าลืมกรอกหรือกรอกผิดเด็ดขาด สำหรับในตัวอย่างผมใช้เว็บ sawadeekap.com เป็นหนูทดลอง 5555 เสร็จแล้วก็กด Continue ได้เลยครับ

 

order_summary_web_hosting
หน้าสรุปข้อมูลทั้งหมด รวมถึงค่าใช้จ่ายในการสมัคร Web Hosting สรุปแล้วราคา $3.00 ครับ แต่ผมมีคูปองให้ใช้เป็นส่วนลดได้ 10% โดยกรอก 10OFF ในช่องของ Promo Code ครับ

 

payment_method_web_hosting
ในส่วนของ Payment Method ก็อย่าลืมเลือกเป็น Paypal นะครับ เพื่อให้สะดวกต่อการจ่าย หรือถ้าคุณมี Bitcoins ก็สามารถใช้จ่ายค่า hosting ได้เช่นกันครับ

 

checkout_web_hosting
เสร็จแล้วก็อย่าลืมกด Checkout จากนั้นจ่ายเงินให้เรียบร้อยครับ คุณก็จะมี Web hosting ไว้สำหรับเก็บข้อมูลเว็บไซต์แล้วครับ

 

หลังจากชำระเงินค่า Web Hosting เป็นที่เรียบร้อยก็สามารถเริ่มต้นขั้นตอนต่อไปได้เลยครับ โดยเริ่มต้นที่เข้าสู่ระบบของเว็บไซต์ Excelnode เสียก่อน จากนั้น

 

web_hosting_login_UI
เมื่อคุณ Log in เข้ามาเป็นที่เรียบร้อย ให้กดที่ Services ทางด้านซ้าย จากนั้นเลือก Plan ที่คุณได้ซื้อไว้ ในที่นี้เลือก Shared Hosting

 

Services_details_web_hosting
จากนั้นคุณจะพบกับรายชื่อของ Service ทั้งหมดที่คุณเคยซื้อไป ให้คุณกดที่ชื่อเว็บไซต์ของคุณ เพื่อที่จะทำการดู IP Address ของเว็บไซต์

 

Shared_hosting_plan_details
คุณจะพบกับรายละเอียดต่างๆมากมาย โดยในที่นี้ ผมจะโฟกัสไปที่ Login Details และ DNS Management เท่านั้น

 

login_details_web_hosting
หากคุณกดเข้ามาที่หัวข้อ Login Details คุณจะเห็นข้อมูลเอาไว้ใช้สำหรับ Log in เข้าสู่ระบบ cPanel ครับ
  • โดยมี URL, Username และ Password หากคุณจะดู Password ให้กดที่ Click Here to show password 1 ครั้ง
  • อย่าลืมที่จะบันทึกข้อมูลทั้งหมดไว้ใน note หรือที่ที่คุณสามารถนำไปใช้ได้สะดวกครับ

 

dns_management_web_hosting
อีกหัวข้อหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ DNS Management ที่จะบอกรายละเอียดของ DNS ครับ แนะนำให้คุณ Copy เลข IP ในบรรทัดที่ ผมได้ใส่กรอบสีแดงไว้ เพราะตัวนี้หมายถึง IP หลักของเว็บไซต์คุณ

 

หลังจากที่คุณได้ IP Address ของเว็บไซต์มาแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ผมจะแนะนำคือ การตั้งค่าให้ Domain Name ชี้ไปยัง IP ของคุณเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณสามารถเข้าถึงได้จากทุกพื้นที่บนโลกครับ

เพราะโดยส่วนตัวแล้วมนุษย์เราจะไม่ค่อยเข้าเว็บไซต์โดยการจำ IP Address เนื่องจากมีความยากในการจดจำ เราจึงใช้เป็นชื่อโดเมนแทน

ซึ่งคุณสามารถติดตามอ่านได้ที่หัวข้อถัดไปที่ผมจะแนะนำการตั้งค่าโดเมนโดยใช้ Cloudflare

การตั้งค่า Cloudflare

cloudflare_logo
Cloudflare เป็นบริการ CDN, DNS, DDoS protection ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยให้แก่เว็บไซต์ของคุณ ข้อดีของ Clooudflare ที่จะเห็นได้ชัดคือ ใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย รวมถึงความง่ายในการติดตั้ง

Cloudflare เปรียบเสมือนตัวกลางระหว่างเว็บไซต์ของคุณกับผู้เข้าชม แทนที่ผู้เข้าชมจะสามารถเข้าเว็บไซต์ของคุณได้โดยตรง

แต่ Cloudflare มีบริการในการกรองผู้เข้าชมให้กับคุณ โดยสามารถป้องกันการโดนโจมตีเว็บไซต์ที่มีชื่อว่า DDoS ได้

ddos-illustrations
แผนภาพจำลองการโจมตีแบบ DDoS โดย Attacker จะควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเซิฟเวอร์อื่นๆที่โดนไวรัส จากนั้นจะมีคำสั่งให้ส่งทราฟฟิกทั้งหมดไปยังเว็บไซต์ของเหยื่อ เพื่อหวังให้เซิฟเวอร์ไม่สามารถตอบสนองได้ทัน และปิดตัวลงในที่สุด :: source ::

พูดง่ายๆก็คือ ถ้าคุณติดตั้งเว็บไซต์และใช้บริการกับ Cloudflare ก็จะสามารถทำให้เว็บไซต์ของคุณปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น

ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งที่ใช้ Cloudflare นั่นก็คือ คุณสามารถจดโดเมนแล้วตั้งค่าให้เว็บไซต์คุณพร้อมออนไลน์ได้ทันที

โดยคุณสามารถสมัครเพื่อเปิดบัญชีใช้งาน Cloudflare ฟรี จากนั้นก็เพียงแค่เพิ่มโดเมนเว็บไซต์ของคุณเข้าไป เพียงเท่านี้เว็บไซต์ของคุณก็พร้อมที่จะออนไลน์แล้ว

สิ่งที่จำเป็นในการเปิดบัญชีกับ Cloudflare ก็ใช้เพียงแค่ Email อย่างเดียวครับ ส่วนเรื่องค่าใช้บริการไม่ต้องกังวล เพราะมี Free Plan ให้ใช้ได้ตลอดชีพ

 

cloudflare_add_website
เมื่อคุณ Log in เข้าสู่ Cloudflare แล้วให้สังเกตทางด้านขวาบนครับ กดที่คำว่า +Add Site เพื่อทำการเพิ่มเว็บไซต์ที่เราต้องการจะตั้งค่า DNS

 

cf2_adding_website_in_cloudflare
หน้า Add Websites ให้คุณกรอกชื่อเว็บใส่เข้าไปในช่อง Enter comma-separated domains names ซึ่งคุณสามารถเพิ่มพร้อมกันได้หลายเว็บไซต์ แต่ในที่นี้ให้ใส่เพียงเว็บไซต์เดียว โดยผมแนะนำให้ใส่รูปแบบนี้ครับ mysite.com ไม่จำเป็นต้องมี http และ www ครับ

 

cf2-1_begin_scan_cloudflare
ผมได้ทำการเพิ่มเว็บไซต์ sawadeekap.com เข้าไป จากนั้นให้กดปุ่มสีเขียว Begin Scan ระบบจะทำการสแกนเว็บไซต์ของคุณ อาจจะต้องใช้เวลาสักพักครับ

 

cf2-2_finished_scan_cloudflare
เมื่อระบบสแกนเป็นที่เรียบร้อย ให้คุณกดที่ Continue Setup

 

cf3_DNS_Record_cloudflare
ในส่วนของ DNS Records ถือเป็นหัวใจสำคัญของการตั้งค่าโดเมน โดยจะมีข้อมูลที่ทาง Cloudflare ได้แสกนไว้แล้ว แสดงขึ้นในแต่ละบรรทัด
  • สิ่งที่ผมสนใจ ณ ตอนนี้คือบรรทัดแรก ที่มี Type = A ซึ่งก็คือ A Record ที่จะทำการชี้ชื่อโดเมนไปยัง IP Address ที่ถูกต้อง
  • ดูได้จากช่อง Name = ชื่อเว็บไซต์ของคุณ และในช่อง Value จะเป็นค่า IP Address
  • ในครั้งแรกนั้น Cloudflare จะดึงค่า IP มาจากผู้ให้บริการจดโดเมน (ค่าเริ่มต้น)
  • คุณต้องทำการแก้ไขตัวเลขนี้ให้ถูกต้อง โดยดูจากตัวเลขที่คุณได้บันทึกไว้จากหัวข้อที่แล้ว

 

cf3-1_update_a_cloudflare
คุณสามารถกดเข้าไปที่ IP ในช่อง Value ได้เลย จากนั้นทำการใส่เลข IP Address ที่คุณได้มาจากทาง Web Hosting ให้ตรงกัน จากนั้นกดด้านนอกกรอบ 1 ครั้ง เพื่อทำการบันทึกข้อมูล
  • ในช่อง Status ที่คุณเห็นจะแสดงเป็นรูปก้อนเมฆสีส้ม หมายถึง ค่าที่บันทึกในบรรทัดนี้จะสามารถใช้งาน Cloudflare ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • แต่ถ้าคุณไม่ต้องการก็สามารถกดที่ก้อนเมฆ 1 ครั้ง จะเปลียนเป็นสีเทาครับ

 

cf4_cloudflare_plan
ในส่วนของ Plan ให้เลือก Free Website ครับ แต่ถ้าคุณต้องการใช้งาน Cloudflare โดยมีฟังก์ชันเพิ่มเติมให้รองรับกับเว็บไซต์ของคุณก็สามารถเลือกเป็น Plan อื่นๆซึ่งจะแสดงค่าใช้จ่ายในด้านขวาครับ

 

cf5_update_nameserver
ขั้นตอนสุดท้าย คุณจะต้องทำการเปลี่ยน Nameservers ในฝั่งโดเมนของคุณ โดย Cloudflare จะแสดงรายชื่อ Nameservers ปัจจุบันของคุณในด้านซ้าย (Current) และ Nameservers อันใหม่ที่คุณต้องแก้ไขให้ตรงกัน ในด้านขวา (Change)

 

พอถึงขั้นตอนนี้ คุณต้อง Log in เข้าสู่เว็บไซต์ผู้ให้บริการ Domain อีกครั้งนั่นก็คือ Namecheap.com เพื่อทำการเปลี่ยน Nameservers ให้ตรงตามที่ Cloudflare กำหนดครับ

 

nc1_dashboard_domain_register
เมื่อคุณ Log in แล้วจะพบกับหน้า Dashboard ของ Namecheap จากนั้นให้คุณมองหาโดเมนของคุณ แล้วทำการกดที่ Manage ด้านขวาของโดเมน

 

nc2_nameserver_update
ขั้นตอนต่อไป คุณจะเห็นรายละเอียดโดเมนของคุณ ในที่นี้ให้คุณมองหาหัวข้อ Namservers ครับ ตามภาพจะดูล่างสุดของภาพ โดยเริ่มแรกระบบจะกำหนดให้ใช้ Namecheap BasicDNS ตามภาพ

 

nc2-1_custom_dns_namecheap
ให้คุณทำการเปลี่ยนจาก Namecheap BasicDNS เป็น Custom DNS

 

nc2-2_custom_dns_namecheap
ระบบจะอนุญาตให้คุณกรอก Nameservers ได้ตามที่คุณต้องการ ซึ่งถ้าบางผู้ให้บริการ มีมากกว่า 2 Nameservers คุณก็สามารถเพิ่มได้ในภายหลังโดยการกดที่ Add Nameserver

 

nc2-3_cloudflare_dns_namecheap
ในที่นี้เราจะใช้ Nameservers ที่ทาง Cloudflare ให้มา ก็สามารถกรอกเข้าไปได้เลยทั้ง 2 ช่อง เสร็จแล้วอย่าลืมกดเครื่องหมายถูก ด้านขวา เพื่อให้ระบบบันทึกข้อมูล

 

nc2-4_added_cloudflare_dns_namecheap
เมื่อบันทึกข้อมูลเรียบร้อย ระบบจะแสดงข้อความด้านบนว่า DNS server update may take up to 48 hours to take effect.
  • ซึ่งนี่เองคือเหตุผลว่าทำไมผมต้องใช้ Cloudflare เพราะโดยทั่วไปการเปลี่ยนแปลงค่าของ DNS จะต้องใช้เวลา 48 ชั่วโมงในการทำให้เครือข่ายทั่วโลกได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและตรงกัน
  • ดังนั้นการใช้ Cloudflare เป็นตัวกลางจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ โดยคุณไม่จำเป็นต้องรอ 48 ชั่วโมงอีกต่อไป เพราะ Cloudflare สามารถทำให้เว็บไซต์ออนไลน์ได้ภายในเวลาไม่ถึง 30 นาที

ถ้าคุณต้องการจะตรวจสอบว่าการทำงานของ Nameservers นั้นถูกต้องหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ Whatsmydns.net วิธีการตรวจสอบก็ไม่ยากครับ ดูได้ตามภาพ

 

mydns1_whatsmydns_dns_check
ภาพการตรวจสอบ Nameservers ของเว็บไซต์ sawadeekap.com
  • ในภาพนี้ ผมกรอกเว็บไซต์ sawadeekap.com ลงไปเพื่อตรวจ Nameservers ว่าถูกต้องหรือไม่ โดยในช่องถัดจากนั้นให้เลือก NS ซึ่งหมายถึง Nameservers ครับ จากนั้นกด Search แล้วรอสักพัก
  • ระบบจะแสดงผลขึ้นมาในแต่ละโซนว่า Nameservers ปัจจุบันของเว็บไซต์คุณมีค่าอะไร
  • ซึ่งบางครั้งอาจจะขึ้นเป็นเครื่องหมายกากบาทสีแดง อาจจะหมายถึงมีความขัดข้องหรืออาจจะเกิดจากการตั้งค่าที่ผิดพลาด ให้ตรวจสอบอีกครั้ง

เสร็จแล้วก็กลับมาดำเนินการต่อใน Cloudflare ในขั้นตอนสุดท้ายนั่นก็คือ

 

cf5_continue_update_dns_cloudflare
เมื่อคุณเปลี่ยนแปลง DNS ทางฝั่งโดเมนเป็นที่เรียบร้อย ก็สามารถกดปุ่ม Continue ได้ทันที

 

cf6_Recheck_nameservers
หน้า Overview จะแสดงสถานะเป็น Pending หมายความว่าตัวระบบ Cloudflare อาจจะยังตรวจสอบไม่ได้ถึงการเปลี่ยนแปลง Nameservers ซึ่งคุณต้องกด Recheck Nameservers 1 ครั้ง เพื่อทำการย้ำระบบให้ตรวจสอบอีกครั้ง อาจจะใช้เวลาสักพักในขั้นตอนนี้

 

cf6-1_active_cloudflare
ผมใช้เวลาในการแคปเจอร์ภาพและเขียนบทความไปพร้อมกันกับการรอให้ Cloudflare ตรวจสอบอีกครั้ง จึงทำให้เมื่อผมกด Recheck Nameservers ระบบก็แสดงสถานะ Active พร้อมใช้งานแล้วครับ ยินดีด้วย

 

mydns2_a_record_check
เพื่อให้มั่นใจยิ่งขึ้น คุณสามารถตรวจสอบ A Record ของคุณได้อีกครั้งที่เว็บไซต์ Whatsmydns.net โดยกรอกข้อมูลเว็บไซต์เหมือนเดิมครับ แต่ให้เปลี่ยนช่องถัดมาเป็น A หมายถึง A Record จากนั้นกด Search แล้วรอผัลลัพธ์ครับ

ถึงตอนนี้ เว็บไซต์ของคุณก็ออนไลน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าคุณลองเข้าเว็บไซต์ คุณอาจจะพบกับความว่างเปล่าของหน้าเว็บ

นั่นก็เพราะว่าเว็บของคุณยังไม่มีเนื้อหาอะไร ซึ่งในหัวข้อต่อไปผมจะแนะนำการติดตั้งระบบสำหรับจัดการเนื้อหาภายในเว็บไซต์ที่เป็นที่นิยมระดับโลกอย่าง WordPress นะครับ ติดตามอ่านกันต่อได้เลย

การติดตั้ง WordPress

wordpress_cms
WordPress เป็นหนึ่งใน CMS ที่ได้รับความนิยมสูง ซึ่งมีฟังก์ชันมากมายให้เลือกใช้ได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการ และที่สำคัญคือ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

ระบบจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ หรือในวงการจะเรียกกันว่า CMS ซึ่งย่อมาจาก Content Management System ซึ่งมีมากมายหลายเจ้า หน้าที่หลักก็เอาไว้สำหรับจัดการ (เพิ่ม/ลบ/แก้ไข) เนื้อหาและตัวเว็บไซต์ครับ

โดยในบทความนี้ผมจะแนะนำการติดตั้ง CMS อย่าง WordPress นะครับ ถ้าเป็นตัวอื่นๆ ผมเองยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการใช้งาน

ซึ่งการติดตั้ง WordPress สามารถทำได้โดยง่ายครับ เพราะทาง Excelnode นั้นได้ติดตั้งตัว Softaculous Apps Installer มาให้แล้วภายใน cPanel ซึ่งสามารถติดตั้งได้โดยง่ายแค่กดและกรอกข้อมูล ตามภาพ

 

ec8_login_details_cpanel
ข้อมูลนี้ใช้สำหรับการ Log in เข้า cPanel นะครับ คุณสามารถกดที่ url ด้านบนเพื่อทำการ Log in ได้เลย โดย username และ password สามารถ copy จากข้อมูลที่แสดงตามภาพได้เลยครับ

 

cp1_cpanel_login_screen
จะปรากฏหน้าให้กรอกข้อมูล Log in เมื่อกรอกเสร็จแล้วสามารถกด Log in ได้เลยครับ

 

cp2_dashboard_cpanel
ภายในหน้านี้จะมีฟังก์ชันต่างๆให้เลือกใช้เยอะมาก สำหรับมือใหม่อาจจะงงกับหน้าตาของตัว cPanel แนะนำให้มองหา Softaculous ที่อยู่ด้านล่างตามภาพครับ เพราะเราจะใช้ตัวนี้ในการติดตั้ง WordPress

 

cp3_softaculous_dashboard_cpanel
เมื่อเข้ามายังด้านในของ Softaculous จะพบกับเหล่าบรรดา CMS มากมายให้คุณได้ติดตั้ง ในที่นี้เราจะติดตั้ง WordPress ครับ สามารถกดที่รูป WordPress ได้เลย

 

cp4_softaculous_wordpress
หน้านี้จะเป็นข้อมูลโดยรวมของ WordPress ครับ โดยเราสามารถดำเนินการติดตั้งโดยกดที่ Install Now ได้ทันที

 

cp4-1_wordpress_setup
ภายในหน้านี้จะประกอบด้วยข้อมูลหลายส่วนที่คุณจำเป็นต้องกรอกให้ครบถ้วนและถูกต้อง ฉะนั้นกรุณากรอกอย่างใจเย็นและตรวจสอบความถูกต้องเสมอ
  • ในหัวข้อ Choose Protocol ให้เลือก http:// ตามภาพครับ หรือหากเว็บไซต์คุณต้องการใช้ https:// สามารถเลือกได้เลยครับ
  • ในหัวข้อ Choose Domain ให้กรอกโดเมนของคุณลงไป (ของผมกรอก sawadeekap.com)
  • และในส่วนสุดท้ายที่ต้องระวัง เพราะมันจะเป็นค่าตั้งต้นของตัว Softaculous ว่าให้ติดตั้ง WordPress ภายในโฟลเดอร์ /wp
  • ซึ่งจะทำให้เกิดความผิดพลาดครับ ต้องลบค่าออกจากส่วนนี้ให้หมด ดังภาพต่อไป

 

cp4-1-1_In_directory_softaculous
โดยทั่วไปแล้วในช่องนี้จะไม่มีการใส่ค่าใดๆทั้งสิ้น เพื่อเป็นการบอกให้ตัวซอฟต์แวร์ทราบว่าจะติดตั้ง WordPress ในโฟลเดอร์หลัก ฉะนั้นกรุณาลบข้อมูลภายในช่องนี้ออกให้หมดครับ จะได้ไม่เกิดปัญหา

 

cp4-2_site_setting_softaculous
ในส่วนของ Site Settings จะเป็นการตั้งค่าเบื้องต้นให้กับเว็บไซต์ครับ โดย Site Name จะเป็นชื่อของเว็บไซต์ ซึ่งคุณสามารถตั้งค่าเป็นอะไรก็ได้ เพราะเราสามารถแก้ไขได้ภายหลัง Site Description ก็จะเป็นข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเว็บไซต์ครับ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ภายหลังอีกเช่นกัน

 

cp4-3_wordpress_blog_login_details
ในส่วนของ Admin ก็จะมี User, Password และ email ซึ่งเมื่อคุณกำหนด user + password เสร็จแล้ว อย่าลืมที่จะจดข้อมูลไว้ในที่ที่คุณนำออกมาใช้ได้สะดวกด้วยนะครับ

 

cp4-4_select_theme_softaculous
ในส่วนนี้ คุณสามารถเลือก Theme เริ่มต้นให้กับเว็บไซต์ของคุณได้ครับ ซึ่งสามารถเปลี่ยนได้ในภายหลังเช่นกัน ให้คุณกด Install ได้เลยครับ และรอสักพักให้ซอฟต์แวร์ติดตั้งให้สำเร็จ
  • หลังจากติดตั้ง WordPress เสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถทดลองเข้าชมเว็บไซต์ของคุณได้เลยครับ โดยการเรียก http://yourdomain.com (แทน yourdomain ด้วยชื่อโดเมนของคุณ)
  • หากคุณต้องการที่จะเข้าสู่ระบบเพื่อที่จะเขียนบทความหรือปรับแต่งแก้ไขเว็บไซต์ก็สามารถทำได้โดยการเติม /wp-admin ต่อท้ายโดเมนของคุณ อย่างเช่น http://yourdomain.com/wp-admin
  • ข้อมูล Username และ Password นั้นจะเป็นข้อมูลที่คุณได้กำหนดไว้ข้างต้นมาทำการ Log in ได้ทันที

ซึ่งเมื่อคุณได้ทำการติดตั้งทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อย นั่นก็หมายความว่าเว็บไซต์ของคุณพร้อมใช้งาน 100% แล้วครับ ที่เหลือก็เป็นเรื่องอื่นๆที่ต้องศึกษาเพิ่มเติม ซึ่งโดยทั่วไปผมก็ใช้ Google ในการหาข้อมูลสิ่งที่ต้องการปรับแต่งแก้ไขเอาครับ หากคุณมีข้อสงสัยหรือปัญหาอย่างไร สามารถ Comment ไว้ได้เลยนะครับ ผมจะมาตอบให้ทุกข้อสงสัย

ขอขอบพระคุณเว็บไซต์ Sawadeekap.com ที่ผมเองเพิ่งได้จดโดเมน + Hosting และติดตั้ง WordPress ด้วยตัวเองทั้งหมด จึงทำให้มีภาพแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียดมา ณ ที่นี้ด้วยครับ 5555